โมโจโจโจ้ : ผมเกลียดโอลิมปิค

หม่าม๊าครับ

ก่อนที่หม่าม๊าจะอ่านความในใจของผมในบันทึกนี้

ผมอยากบอกให้หม่าม๊าสบายใจว่า

ผม..โมโจโจโจ้..ลูกรักของหม่าม๊า ยังรักหม่าม๊าอย่างไม่มีข้อแม้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ

แต่..หม่าม๊าครับ

ผมเกลียดโอลิมปิคครับ...

ไม่ใช่เพราะมันเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติ ที่มวลสุนัขไม่ได้มีส่วนร่วม

ไม่ใช่เพราะมันทำให้หม่าม๊าขึ้นนอนดึกแล้วผมอดนอนไปด้วย

แต่..หม่าม๊าครับ

ผมหวาดหวั่น จิตตก อกระแวง..ทุกครั้งที่มีนักกีฬาไทยลงแข่งขันครับ

วันก่อนครับ..หม่าม๊า

เป็นวันแรกที่นักยกน้ำหนักสาวไทยรุ่น 48 กก. ลงแข่งครับ ..พี่ฟ้ากับพี่มายด์ครับ

กำลังเคลิ้มๆ จะหลับไหลในพะวัง พลันได้ยินเสียงหม่าม๊าแว่วเข้าหู "ฮึ้บ!" 

แล้วในนาทีต่อมาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว มุดหนีไปหลบภัยที่ใต้เก้าอี้ครับ...

หม่าม๊า ตะโกนเสียงดังสนั่นกลางดึกว่า "ตี" 

ตีใคร ตีอะไรกันคร้าบบบบบบบบบบบ ผมนอนอยู่เฉยๆ

เหล่ตามองเห็นภาพในโทรทัศน์ อ๋อ...พี่สาวนักยกน้ำหนักกำลังคลีนแอนด์เจิร์ค...

พี่มายด์...คลีน หม่าม๊า...ฮิ้บ

พี่มายด์...เจิร์ค หม่าม๊า...ตี

..ท่ายกของหม่าม๊า..สวยกว่าของพี่มายด์อีกครับ เสียแต่ว่า ไม่ได้มีคานอะไรในมือเลย 

ยกอะไรกันครับหม่าม๊า..

แต่...หม่าม๊าครับ

หม่าม๊ายังไม่ยอมหยุดเพียงแค่นั้นครับ ไม่ว่าจะชาติไหนชาติไหน หม่าม๊าก็ "ฮิ้บ-ตี ฮึ้บ-ตี" ตลอดๆ ครับ 

หม่าม๊าครับ....ผมเครียด

หลายวันเข้านักกีฬาไทยก็ทะยอยตกรอบ แม้จะทำดีที่สุดแล้ว

แต่หม่าม๊าเสียงดีไม่มีตกครับ 

จะกีฬาไหนกีฬาไหน หม่าม๊าก็ "ตี ตี ตี้"

อยากรู้เหลือเกินครับ เวลาหม่าม๊าเชียร์วิ่ง 100 เมตรชาย

หม่าม๊าจะตีๆๆๆๆ ทุกครั้งที่พี่เขาซอยเท้าหรือเปล่าครับ

ถ้าอย่างนั้น ผมกระซิบปะป๊าเบาๆ ว่า...ป๊าครับ ป๊าจะกำพร้าเมียก็งานนี้แหละครับ...

..เอ๊ะ! ป๊ายิ้มมุมปาก...

ยิ่งวันนี้ยิ่งเครียดครับ 

พี่เอพี่อาร์ท ครับหม่าม๊า... เสียงกรี๊ดของหม่าม๊า ผมนึกว่าปะป๊าขาขาดครับ

ทั้ง "กรี๊ดดดด" "ตีๆๆๆ"  "แอร้ยยยยย" โดดไปมาเหมือนหนีแมลงสาบอยู่ซักพักทุกอย่างก็สงบลง

หม่าม๊า...ควักผมออกมาจากเก้าอี้ กอดผมร้องไห้ 

ผมให้อภัยได้ครับหม่าม๊า....อย่าร้องนะครับ

"โถ ลูกเอลูกอาร์ทของป้า โอกาสหน้าเอาใหม่นะลูก"

...เอ่อ..หม่าม๊าครับ....ผมเสียใจ แต่ไม่แคร์....

รักเสมอ

โมโจโจโจ้

โมโจโจโจ้ : กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ

เสียเหงื่อให้กีฬาดีกว่าเสียน้ำตาให้ยาเสพติด

มันใช่แล้วค่ะ...

บ้านเราได้ประจักษ์แจ้งกับสองตา เมื่อได้นำหมาหน้าหมูเข้าบ้าน

ท่านว่า....ท่านที่่ว่านั้นคือท่านผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ ได้มาให้ความรู้ว่าการเลี้ยงหมาพันธุ์อย่างงี้ต้องให้ออกกำลังให้พอ จัดให้หนัก

แล้วมันหนักขนาดไหนถึงจะเรียกว่าพอ

ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อน้ำยาเท่าไหร่ว่า เอ้อ..การออกกำลังกายไม่ถึงจะทำให้เกิดหายนะตามมา..บรึ๋ย!

เราเลี้ยงหมาในบ้านทาวน์เฮ้าส์...ดังนั้นก็ต้องไปหาที่ให้หมาวิ่ง

คิดได้ดังนั้นก็จัดแจงไปสมัครสนามวิ่งเล่นไฮโซ

ไปถึงสนามวิ่งเล่นแล้วพบว่า

อ๊าว..เห็นสระว่ายน้ำเลยจัดให้โมโจ้ซักรอบ

โมโจ้ลงไปว่ายน้ำอย่างร่าเริง...ชนิดต้องดันตูดลงน้ำกันเลยทีเดียว

ยัดเยียดความเป็นนักกีฬาให้โมโจ้ไปชั่วโมงนึง

กลับมาบ้านได้ผลเลย....หมาสลบ

วันรุ่งขึ้น...พากลับไปสนามวิ่งเล่น,,,,ปาบอลเล่นกันสองสามชัวโมง

กลับมาบ้านได้ผลเลย...หมาสลบ

วันต่อมา...เราไปวิ่งเล่นกันที่สวนสาธารณะให้มันเก๋ๆ ดีกว่า

ออกจากบ้านไปวิ่งเล่น...โชว์เก๋กันที่บึงหนองบอน

วิ่งเล่นกันสามท่านรอบบึงน้ำใหญ่ยักษ์....

กว่าจะรอบสระพ่อคุณเอ๊ย...

ยังไม่ทันกลับบ้านได้ผล....โมโจ้ทิ้งตัวนอนหอบเป็นหมูหัน

โชว์เก๋...ให้กับประชาชนที่มาออกกำลังได้ตลกขบขันกันถ้วนหน้า

...หึ หึ หึ....สะใจแม่มันเหลือเกิ๊น

กลับมาบ้านได้ผล....

...พ่อ แม่ มันนอนเปลี้ย สลบไสล ให้หมานอนเลียหน้า ตะกุยขา ขำๆ....

โมโจโจโจ้ : หน้าที่ของหมา

"หมา" หรือถ้าอยากจะเรียกให้สุภาพก็คือ "สุนัข"

มีหน้าที่อะไรบ้าง...

1. เฝ้าบ้าน เฝ้าสวน เฝ้าโน่นนี่นั่น

2. อารักขา

3. ช่วยราชการ ดมหายาเสพติด หาระเบิด หานู่นหานี่

4. เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์

5. เดินสายประกวด

หมาบางตัวทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดีเลิศก็ได้รับโล่รางวัล

หมาบางตัวทำหน้าที่บกพร่องก็ถูกทิ้งขว้าง...

แต่หมาบ้านนี้...โมโจโจโจ้

มีหน้าที่อย่างเดียวที่ต้องทำคือ...สร้างความสุข

โมโจ้ทำหน้าที่ได้ดีพร้อมหรือไม่

สมควรได้โล่จากสมาคมพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทยหรือสมาคมหมาดีเด่นแห่งสามโลกหรือไม่

โปรดพิจารณา

วันที่ฝนเศร้า เช่นวันที่ทะเลาะกับคุณสามี

นั่งร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่คนเดียว โมโจ้เข้ามาเลียหน้าเช็ดน้ำตาให้

วันที่ฝนจิตตก เช่นวันที่มีระเบิดลงที่สีลม 

นั่งเฝ้าทีวีดูข่าวอยู่คนเดียว โมโจ้เข้ามาแทรกตัวให้อ้อมแขน

วันที่ฝนกลัว เช่นวันที่ดูหนังผีญี่ปุ่น

นั่งหลอนอยู่คนเดียว โมโจ้เข้ามานอนแทบตัก

หรือแม้แต่วันที่ฝนอารมณ์ดี

นั่งเล่น farmville กับคุณสามี โมโจโจโจ้ยังอุตส่าห์มานั่งแทรกกลางเป็นมือที่สาม

เพิ่มความอบอุ่นในครอบครัว

บางวันยังเล่นตลกก่อนนอนแถมให้ดูอีกแน่ะ

โมโจโจโจ้ทำเพียงเพื่อแลกอาหารวันละสองมื้อ

หรือทำเพียงเพราะอยากให้พาไปว่ายน้ำเท่านั้น

หม่าม้าก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะโมโจ้เป็นหมาพูดภาษาคนไม่ได้

หม่าม้าก็เป็นคนที่อ่านใจหมาไม่ออก

ได้แต่เพ่งมองตาตี่ๆ ดั้งโด่งๆ

ก็ยังไม่มีคำตอบ

แต่ถ้าถามว่าโมโจ้ทำหน้าที่ของโมโจ้ดีแล้วหรือยัง

ก็คงตอบได้เพียงแค่ว่าหม่าม้ากับปะป๊ามีความสุขมาก

จนอยากให้โล่

แล้วคนหรือมนุษย์อย่างเราล่ะ มีหน้าที่อะไร

เราทำหน้าที่นั้นดีพอจนมีใครบางคนอยากให้โล่แล้วหรือยัง

โมโจโจโจ้ : เมื่อป๊าไม่อยู่บ้าน

ปกติบ้านเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่นครับ อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่และลูกหมาหน้าลายอย่างผม
แต่บางครั้งปะป๊าก็ไม่อยู่บ้านหลายวัน 
โดยมีข้ออ้างกับหม่าม้าว่า จะไปหาปลาบ้าง ไปช่วยเพื่อนซ่อมรถบ้าง ไปอะไรต่ออะไรที่เป็นเหตุผลดีๆทั้งนั้น
หม่าม้าก็ไม่เคยขัดเลยครับ ได้แต่บอกให้ปะป๊า "อยากไปก็ ไปซี๊" 
หม่าม้าใจดีมากเลยครับ....
ความจริงแล้วเวลาผมอยู่กับหม่าม้าสองคน ผมไม่ค่อยชอบหรอกครับ
เพราะว่าเช้ามาหม่าม้าก็ต้องออกจากบ้าน กว่าจะกลับก็มืดค่ำ
ผมอยู่บ้านคนเดียว เหงามากครับ ไม่รู้จะทำอะไร 
คิดถึงหม่าม้าก็เลยเอาเสื้อผ้าของหม่าม้ามาฟัดให้หายคิดถึง 
เอาหมอนที่ปะป๊าเคยนอนมาเลาะตะเข็บ
...คิดถึงครับ พูดแล้วน้ำตาจะไหล....
พอตอนค่ำๆ หม่ะม้ากลับบ้าน....
แอ๊...นี่หม่าม้าหรือยักษ์ขมููขีกันแน่....
ผมกัวแล้วกั๊บ..ก็เลยต้องใช้มุขเดิม...แกล้งบ้า.....
"ทำไมบ้านเป็นแบบนี้โมโจ้จจจจจจจ" 
ผมตกใจกระโดดถีบหม่าม้า...โหยโดดได้สูงมากเลยครับ สี่ขาลอยเข้าท้องหม่าม้าพอดี
หม่าม้าคงหายโกรธแล้ว...ไม่พูดไรเลย ได้แต่บอกว่า 
"มึง...มึง นะมึง" 
จังหวะนี้ผมก็ใช้แผนสอง...แกล้งตายที่แทบเท้าหม่าม้า ทำตาโต กระพริบตาสองที....
ได้ยินเสียงหม่าม้าถอนหายใจ...แล้วเดินไปเก็บบ้าน...
อิอิ สำเร็จ

ผมรอหม่าม้ามาทั้งวันหวังว่าจะได้ไปเดินเล่นด้วยกัน จะได้เล่นเก็บบอล ชักกะเย่้อ..
แต่หม่าม้าบอกเหนื่อยและนอนดูทีวีตลอดเลยคร้าบบบบบบบบ
ฮือ ฮือ
พอได้เวลาดึกๆ หม่าม้าก็ไปผัดข้าวผัดมากินกันสองคน 
แต่อันนี้ห้ามไปบอกป๊านะครับเพราะป๊าไม่ให้ผมกินข้าวผัด อ้อแล้วหม่าม้าก็ลืมให้ผมกินน้ำมันปลาอีกแล้ว...
หมดหล่อกันพอดี

เสร็จแล้วหม่าม้าก็มานอนหน้าทีวี จนหลับไป
ผมเหงาครับ ผมคิดถึงป๊าครับ เมื่อไหร่ป๊าจะจับปลาได้แล้วรีบกลับบ้านซะทีครับ

กลางคืนคือช่วงที่เศร้าที่สุด หม่าม้าคงจะคิดถึงปะป๊าเหมือนกันใช่มั้ยครับม้า
"zzzzzzzzzz" 
แหมคิดถึงจนเพลียหลับไปเลยครับ
แต่ป๊าครับไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลบ้านและหม่าม้าเอง.....
Goodnight ครับหม่าม้า
"โมโจ้ มึงมานอนทับหน้ากูทามมายเนี่ยหายใจไม่ออกโว้ยยยย"



รักป๊ากับม้าเสมอ
โมโจโจโจ้

โมโจโจโจ้ ตอน Love is in the air.

จะว่าถึงฤดูกาลของเวลาอยากมีพันธะของหมู่หมาก็ไม่น่าใช่

เพราะว่าโมโจโจโจ้ของเราเขาเป็นยอดชาย อยากมีพันธะได้ทู้กวัน

สเป็คเขานะเหรอ... อืม....

...ผมยาวตัวเล็ก (อันนี้ได้พ่่อ)

...ตัวเล็กและมีตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย (ไฮโซได้แม่)

ยามเมื่ออยากมี something โมโจ้ก็จะขึ้นข่มตุ๊กตาหมาตัวใหญ่ยักษ์

ซึ่งปัจจุบันมันได้ลาโลกไปแล้ว..เพราะพี่เขาซาดิสมากมาย

พอเมียตุ๊กตาลาโลกไปแล้ว

ก็ถึงเวลาขาหม่าม้า ถึงเวลาเสา ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้

เรื่องความหื่นถ้ามีการส่งประกวดชิงแชมป์ประเทศไทย ล่ะก็ โมโจ้ก็จะได้เป็น mojojojo.th.ch. เป็นแน่

เขาเคยไปนั่งเฝ้าสาวยอร์คเชียชนิดไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้วในโลก

สาวเจ้าก็มองด้วยหน้าตาหยามเหยียดประหนึ่ง สาวไฮโซมองหนุ่มแบกข้าวสาร

เขาเคยยอมให้สาวแชมป์ประเทศไทยขบหูด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขมาแล้ว (ทีกะตัวอื่นล่ะ มึงไม่เคยยอม)

ช่วงเดือนนี้ถือว่าจัดหนักเลย ล่ะสำหรับความโหดหื่น

เรียกว่าไม่เลือกแล้ว

มีสาวพันธุ์ทางสีน้ำตาลเดืนมาวนเวียนอยู่หน้าบ้าน

โมโจ้ Love Love

วิธีพิชิตใจสาวของโมโจ้อ่ะหรอ เก๊าะ

โชว์พาวอ่ะดิ๊

สมบัติในบ้านมีอะไรก็คาบไปกองหน้าบ้านอวดสาว

สมบัตืที่ว่าได้แก่ ....

หมอนข้างที่กัดไส้แตก..อยากโชว์ว่าเก๊าแข็งแรงนะตะเอง

คอง (ของเล่นหมาราคาหลายร้อย).....อยากโชว์ว่าเก๊ารวยนะตะเอง

มะพร้าวทั้งทลาย....อยากโชว์ว่าอาหารการกินบ้านเก๊าไม่มีขาด

กางเกงในหม่าม้า....เอ่อไม่ทราบว่าว่าเมิงเอาไปโชว์เพื่อ....

ทุกสิ่งอย่างข้างต้นกองรวมกันอยู่หน้าบ้าน ติดประตูรั้ว

หม่าม้าออกมาเห็น....

...ลมจับ....

"ได้ เดี๋ยวหม่าม้าหาเมียให้น้าลูกน้าาาาาา"

บอร์ดไม่บอด

ที่โต๊ะทำงาน หรือ work station ของใครไม่มีบอร์ดติดโน๊ตบ้าง ยกมือขึ้น
ส่วนคนที่มีแล้วแต่เป็นไม้ก๊อกๆแก๊ก ยกมือขึ้น
ใครมีเป็นไวท์บอร์ดบ้านๆ ยกมือขึ้น

เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น พวกเธอทุกคนจงประดิษฐ์ "บอร์ดไม่บอด" เป็นของตัวเองกันเถ๊อะ

เริ่มจาก inspiration กันก่อนสิ

แบบแรกสำหรับท่านนักดื่มที่อยากจะรียูสจุกก๊อก รายละเอีดจากที่นี่

แบบที่สองสำหรับสาวช่างเย็บ รายละเอียดคลิ๊ก

สุดท้ายเจ๋งสุด ชอบมากกกกก มีทุกสิ่งในหนึ่งเดียวตั้งแต่บอร์ด นาฬิกา และกระดานดำ

ส่วนอันนี้เป็นสิ่งที่ตัวเค้าประดิษฐ์ขึ้นมาเอง วิธีทำก็เอาผ้าตามชอลมาหุ้มบนฟิวเจอร์บอร์ดดึงให้ตึง
เอาที่เย็บกระดาษกดๆๆ ลงไป

แต่อยากจะมีช่องใส่ดินสอตรงมุม วิธีทำก็ตัดผ้ามาตามชอบแล้วก็เย็บลักษณะแบบนี้

เสร็จแล้วก็จะได้แบบนี้

 แล้วมันก็จะรกแบบนี้ในที่สุด

ขะม้าคอลเลคชั่น

ผ้าขะม้า หรือ ผ้าขาวม้าคือ ผ้าที่ทอเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพอเหมาะสามารถปกปิดอวัยวะได้ตามสมควร ท่านว่าต้องให้กว้างสองศอกยาวสี่ศอก ถีงจะมิดใครเล็กกว่านั้นไม่ว่า หากใครใหญ่กว่าก็.....


เอาล่ะมาว่ากันต่อ ผ้าขะม้า ผ้าขาวม้า คำนี้หนามาจากอะไร
บ้างว่ามากจากเขมร เขมรเขาเรียกว่า "กรอมา"
บ้างว่ามาจากเจแปน O_o! เป็นผ้าเตี่ยวเรียกว่า "hakama"
แต่หลายคนบอกว่ามากจากเปอร์เซียโน่น มาจากคำว่า "กามาร์บันด์"  อันนี้มาจาก "กามาร์" แปลว่าเอว "บันด์" แปลว่า พัน รัด คาด ดังนั้น กามาร์บันด์ จึงหมายถึงคาดเอว


แหมมันช่างคล้องจองเหมาะเจาะกับขะม้าเคียนเอวเราเหลือเกิ๊น...........


สยามเรารู้จักผ้าคาดเอวมาตั้งแต่สมัยเชียงแสน ดูได้จากหลักฐานบนผนังวัดภูมินทร์ จ. น่าน มาถึงอยุธยาก็ยังได้รับความนิยม เอามาพาดบ่า ลอยชายแล้วเดินไปมา เขาเรียกว่าเดินลอยชาย
เอามาคาดเอว ห่ออาวุธ เก็บสัมภาระ ปูพื้น ปูนอน ปูนั่ง นุ่งอาบน้ำ เช็ดตัว จนเอามาผูกคอแก้เซ้ง 


สาระพัดประโยชน์ขนาดนั้นกันเลยทีเดียว


ที่เขียนมานี่ไม่มีอะไรอยากจะโยงนำเข้าเรื่องว่ากระเป๋าคอลเลคชั่นนี้ชื่อว่า "ขะม้า" Kah-Mah นั่นเอง


การเตรียมผ้านำมาเย็บกระเป๋าของเจ้าผ้าขะม้านี้แตกต่างจากผ้าอื่นเล็กน้อย
เพราะว่าเธอหลุดลุ่ย เรี่ยราดมาก 
จึงต้องใช้ผ้ากาวรีดไว้ก่อนเพื่อให้ไม่รุ่ยและกระเป๋าอยู่ตัวด้วย
ผืนหนึ่งทำได้หลายใบทีเดียว 
ตอนนี้มี 3 ใบ 3 แบบดังนี้คือ

บน : Oversize clutch
ซ้าย : Baguette wristlet
ขวา : Scallop clutch